FAQ

1.รับแบบ Artwork จากลูกค้า หลังจากนั้นฝ่ายกราฟิกจะตรวจสอบและปรับแก้สี (ในกรณีที่ไฟล์มาในรูปแบบ RGB ปรับให้เป็น CMYK หรือสีพิเศษ) และไดคัทต่างๆ เพื่อให้สามารถนำไปทำงานต่อในขั้นตอนหลังพิมพ์ได้

2.จัดทำ Digital Proof ให้ลูกค้าตรวจสอบข้อความและรายละเอียดต่างๆ รวมถึงจัดทำ Mock up เพื่อให้ลูกค้าทดลองใส่ชิ้นงานจริง จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ลูกค้าจะต้องคอนเฟิร์มความถูกต้องทุกอย่างก่อนที่จะเริ่มทำเพลทเตรียมพิมพ์ ซึ่งหลังจากนั้นจะไม่สามารถปรับแก้ได้อีก

1.กล่องแป้งหลังเทา (งานที่ไม่ต้องการความพรีเมี่ยม)

2.กล่องแป้งหลังขาว (งานที่ต้องการประหยัดต้นทุน แต่ยังอยากให้ดูมีความพรีเมี่ยม)

3.อาร์ตการ์ด (สำหรับงานที่ต้องการเพิ่มมูลค่าสินค้าให้ดูพรีเมี่ยม)

4.อาร์ตมัน (ใช้สำหรับงานโบรชัวร์ แผ่นพับ พิมพ์ได้ 2 ด้าน)

5.กระดาษเคลือบฟอยล์ (เป็นเทคนิคพิเศษเพิ่มความหรูหราให้กล่อง มีความเงา)

1.การเคลือบ 

• เคลือบยูวี
• เคลือบวอเตอร์เบส
• เคลือบวานิช
• เคลือบลามิเนตใสหรือด้าน
• เคลือบโฮโลแกรม

2.เทคนิคพิเศษ เพิ่มลูกเล่นให้ชิ้นงาน

• สปอต์ยูวี
• ปั๊มนูน ปั๊มจม
• Hot Stamp สีต่างๆ

3.ปั๊มไดคัท ตามรูปแบบต่างๆ

4.การปะกาวขึ้นรูป

รับพิมพ์งานกล่องบรรจุภัณฑ์ออฟเซ็ตหลากหลายรูปแบบ สามารถพิมพ์ได้บนทั้งกระดาษ, พลาสติก, กระดาษเคลือบฟิล์มเมทัลไลท์ และวัสดุอื่นๆ เช่น สติกเกอร์ ฉลาก

พิมพ์งานได้ 1-8 สี และสีพิเศษ ขนาดของชิ้นงานเมื่อกางออกแล้วจะต้องไม่เกิน 28”x39”

แผ่น PVC, แผ่น PET, กระดาษเคลือบฟิล์มเมทัลไลท์

ในกรณีที่ทางลูกค้าไม่มีแบบ ทางโรงพิมพ์จะทำการออกแบบให้ครั้งแรก และสามารถแก้ไขได้ไม่เกิน2ครั้ง 

ในกรณีที่ลูกค้ามีแบบแล้ว สามารถปรับแก้ได้1ครั้ง

หลังจากได้รับแบบแล้วทางโรงพิมพ์จะทำการปรับรูปแบบกล่องให้เหมาะสมต่อการผลิต และจะทำการขึ้นตัวอย่างกล่องเปล่าไม่พิมพ์ลายให้ลูกค้าได้ทดลองใส่ผลิตภัณฑ์ ก่อนการผลิตจริง

ขั้นต่ำ 3,000 ชิ้น

หลังจากคอนเฟิร์มแบบตามดิจิตอล และ ม็อคอัพแล้ว จะใช้เวลาผลิตชิ้นงานประมาณ 10-14 วัน

และจะทำการจัดส่งฟรีในพื้นที่กรุงเทพ ปริมณฑล ภายใน 1-2 วัน ตามรอบการขนส่งของบริษัท พื้นที่ต่างจังหวัดใช้เวลา 3-4 วัน โดยค่าใช้จ่ายคิดตามจริงจากบริษัทขนส่งนั้นๆ

มีบริการให้คำปรึกษาและออกแบบให้ตามความต้องการของลูกค้า

สามารถออกใบกำกับภาษีได้